ss "กาบัดดี้" กีฬาโบราณประวัติยาวนานกว่า 4,000 ปี | JIPATA INDEX นานาสาระน่ารู้

"กาบัดดี้" กีฬาโบราณประวัติยาวนานกว่า 4,000 ปี

"กาบัดดี้" กีฬาชื่อแปลกนี้ถือเป็นหนึ่งในกีฬาโบราณที่มีการละเล่นยาวนานมากว่า 4,000 ปีแล้ว เป็นกีฬาที่ฝึกทั้งทักษะการต่อสู้และไหวพริบ ซึ่งปัจจุบันดูเหมือนว่ากีฬาประเภทนี้จะได้รับความสนใจจากวัยโจ๋มากขึ้น เพราะกาบัดดี้เรียกได้ว่าสร้างความตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้กีฬาประเภทอื่น

กาบัดดี้
          กาบัดดี้ จึงเป็นหนึ่งในกีฬาที่เรียกความสนใจให้กับเยาวชนที่มาร่วมงานมหกรรมกีฬามหามงคล ปี 2552 จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร และการกีฬาแห่งประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ "พลังกีฬา 7 วัน ออกกำลังกายทั้งครอบครัว" ณ สนามกีฬาอินดอร์สเตเดียมหัวหมาก เมื่อเร็วๆ นี้

          การแสดงดังกล่าวได้รวมเอาน้องๆ จากสมาคมกาบัดดี้แห่งประเทศไทยที่แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ผลัดกันรุกและรับ จำนวนผู้เล่นจะมีฝ่ายละ 7 คน

          เริ่มด้วยฝ่ายรุกจะออกมาคนเดียวพร้อมกำหนดลมหายใจ และวิ่งเข้าไปทางฝ่ายรับที่มีอยู่ 7 คน ซึ่งจับแขนคอยต้อนคนที่บุกเข้ามา ลีลาของนักกีฬานั้นทางฝ่ายรุกมีทั้งท่ากางแขนหลอก หรือท่าจระเข้ฟาดหาง ส่วนฝ่ายรับก็ต้องต้อนกันเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหลุดลอดกลับไปยังดินแดนตัวเอง ได้

          อาจารย์ สมปราชญ์ ผลชู ประธานฝ่ายเทคนิคและผู้เชี่ยวชาญกีฬากาบัดดี้ของการกีฬาแห่งประเทศไทย เล่าว่ากาบัดดี้เป็นชื่อของกีฬาชนิดหนึ่งที่คนอินเดียเรียกกัน ถ้าจะเปรียบเทียบกับเมืองไทยแล้วเปรียบได้กับการเล่นตี่จับบ้านเรานั่นเอง

          "การ ละเล่นชนิดนี้จะช่วยส่งเสริมสมรรถภาพได้ดีเมื่อเปรียบเทียบกับกีฬาชนิดอื่น เพราะนอกจากช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ด้านจิตใจยังทำให้อารมณ์แจ่มใส ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพของผู้เล่น ไหวพริบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ผู้เล่นจึงต้องมีร่างกายที่แข็งแรง ระบบกล้ามเนื้อและสมองต้องสัมพันธ์กัน ในการแข่งขันผู้เล่นต้องกลั้นหายใจในช่วงหนึ่งของการแข่งขัน ฉะนั้นผู้เล่นต้องมีการควบคุมพลังงานในการเคลื่อนไหวที่ดีด้วย"

          ฟังอาจารย์ผู้ฝึกไปแล้ว มาฟังเพื่อนๆ ผู้หลงใหลในกีฬามหัศจรรย์ชนิดนี้กันบ้าง เริ่มจาก น้องอาย ด.ญ.อลิสา ลิ้มสำราญ จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ลาดพร้าว ที่คว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมเยาวชนหญิงในปี 2552 ประเภทกีฬากาบัดดี้ เล่าว่าเริ่มรู้จักกีฬานี้ตอนปี 2549 ตอนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจลงเล่นทันที แต่เมื่อลองทำความรู้จักและเล่นไปเรื่อยๆ ก็เริ่มชอบ เพราะกีฬาชนิดนี้หลายคนอาจมองว่าง่ายๆ แต่จริงๆ แล้วการจะเล่นให้ดีนั้นต้องใช้ทั้งปฏิภาณไหวพริบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ายามเราเป็นฝ่ายรุกและฝ่ายรับ

          น้อง อายยังเล่าถึงประโยชน์ที่ได้รับจากกีฬานี้ว่า แต่ก่อนมีโรคหอบเป็นโรคประจำตัว แต่พอมาเล่นกีฬากาบัดดี้แล้วนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรง โรคหอบหืดที่เคยเป็นก็หายไปอีกด้วย ในเรื่องของจิตใจ กีฬาประเภทนี้จะช่วยกล่อมเกลาให้เราเป็นคนที่รู้จักให้อภัยและใจเย็นขึ้นมาก

          ด้าน น้องหมิว น.ส.นาลีรัตน์ เกสโร อายุ 17 ปี หนึ่งในนักกีฬากาบัดดี้ของสมาคมกาบัดดี้แห่งประเทศไทย เล่าว่าเมื่อก่อนเล่นวอลเลย์บอลมาก่อน แต่พอได้รู้จักกีฬาประเภทนี้จากอาจารย์สมปราชญ์ที่มาสอนให้ที่โรงเรียนจึง เริ่มสนใจ เข้ามาฝึกอย่างเต็มตัว เมื่อมาเล่นแล้วจึงรู้ว่านอกจากสุขภาพร่างกายจะดีด้วยแล้ว เรื่องของไหวพริบที่จะต้องคิดวางแผนอยู่ในหัวตลอดว่าทำอย่างไรเราถึงจะได้ แต้มมา อีกทั้งเรื่องของสติและสมาธิที่จะต้องมีติดตัวตลอดเวลา เมื่อฝึกกีฬาประเภทนี้อยู่บ่อยๆ ทำให้รู้สึกว่าการดำเนินชีวิตประจำวันเรานำเรื่องของสติเข้ามาปรับใช้ได้

          ได้ฟังข้อดีของกีฬากาบัดดี้มากมายอย่างนี้แล้ว ไม่แปลกใจเลยที่กีฬาชื่อแปลกแสนมหัศจรรย์นี้จะเป็นที่นิยมของเยาวชนรุ่นใหม่ ที่ใส่ใจสุขภาพ

ขอบคุณที่มา : http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/9408

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ