ss หลักในการเลือกเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย | JIPATA INDEX นานาสาระน่ารู้

หลักในการเลือกเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย


การเลือกมหาวิทยาลัยที่จะไปศึกษาต่อนั้นเป็นช่วงที่สำคัญมาก  ช่วงหนึ่งในการกำหนดอนาคตทางการศึกษาของน้อง  จะเห็นได้ว่า  มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดที่น้องๆได้เลือกนั้นอาจไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ  แต่เป็นมหาวิทยาลัยที่มีแขนงวิชาที่น่าสนใจและเกี่ยงข้องกับปัจจัยอื่นๆที่สัมพันธ์กัน  โดยน้องๆสามารถประเมินได้จากขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญในการเลือกมหาวิทยาลัยตามขั้นตอนดังนี้

       ขั้นตอนที่  1  Self  Evaluation (การประเมินด้วยตนเอง)    มีหลักการประเมินดังนี้

A :  หาเหตุผลและคำตอบที่ชัดเจนในการไปศึกษาต่อต่างประเทศ
         * แรงจูงใจที่เกิดจากเป้าหมายในอาชีพ  หรือลักษณะงาน  ความน่าสนใจในเนื้อหาวิชาที่จะเรียน
        * อะไรที่น้องๆสนใจเป็นพิเศษ
      *  ความต้องการบุคลากรในตลาดแรงงาน
              คำตอบที่ได้จะทำให้น้องๆสามารถนำไปพิจารณาร่วมกับ  Course   ที่ทางมหาวิทยาลัยเปิดรับ  ถ้าน้องต้องการค้นคว้าในเรื่องเจาะจงเฉพาะทาง  น้องก็ควรสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีคณะหรือภาควิชาที่เปิดสอนในวิชาที่น้องสนใจ  หรือหากน้องสนใจที่จะหาประสบการณ์จริงในวงการธุรกิจ  น้องก็ควรเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ใกล้ย่านธุรกิจหรือในตัวเมืองสำคัญทางการค้าใหญ่ๆ     

B :  การประเมินตนตามความเป็นจริงในเรื่องของความสามารถทางการศึกษา
         *  น้องเรียนเก่งหรือไม่?  น้องเป็นคนขยันหรือขวนขวายหรือไม่?
         *  เกรดเฉลี่ยที่ผ่านเป็นอย่างไรบ้าง?
         * น้องมีประสบการณ์การทำงาน  หรืองานค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่น้องต้องการเรียน
              หรือไม่?
         *  น้องเคยมีประสบการณ์ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่อยากเรียนต่อหรือไม่?
              สำหรับน้องๆที่ได้เกรดเฉลี่ยสูงจะมีโอกาสในการเลือกสมุครเข้ามหาวิทยาลัยได้มากกว่าน้องที่ได้เกรดเฉลี่ยระดับกลางๆ  ซึ่งอาจจะสามารถสมัครในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอันดับต้นๆได้   โดยไม่ติดขั้นในเรื่องของเกรดเฉลี่ย  แต่สำหรับน้องๆที่มีเกรดเฉลี่ยระดับกลางก็ควรเลือกสมัครมหาวิทยาลัยที่อยู่ในระดับกลางๆ  เพราะจะมีโอกาสมากกว่า  ถ้าน้องเลือกสมัครในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมาก  เรามีโอกาสถูกปฏิเสธได้ค่ะ

C :  การค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมในสาขาที่ต้องการจะเรียน
         *  น้องเคยได้คุยกับอาจารย์  หรือได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ในสาขาที่น้องจะเรียนหรือ
              สาขาอื่นๆหรือไม่
              การศึกษาต่อในต่างประเทศนั้นแตกต่างจากการเรียนต่อในบ้านเรา  ในเรื่องของระบบที่ค่อนข้างยืดหยุ่น  นักศึกษาสามารถเลือกหลักสูตรที่มุ่งเน้นโดยตรงและเจาะจงไปในตัววิชาที่น้องสนใจ

D :  การพิจารณาด้านการเงิน
         *  น้องได้รับทุนจากทางมหาวิทยาลัยหรือไม่?
         *  ครอบครัวของนักศึกษาสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเรียน  และค่าใช้จ่ายอื่นๆได้
              หรือไม่?
         *  นักศึกษาได้รับทุนจากสถาบันในต่างประเทศหรือไม่?
         *  นักศึกษาได้รับสิทธิ์ในการขอกู้ยืมเงินในการศึกษาต่อหรือไม่?
              การคำนวณค่าใช้จ่ายในกระบวนการสมัครเรียน  การสอบ  จะอยู่ที่ประมาณ  5,000  20,000  บาท  ส่วนเรื่องค่าเรียน  ค่าครองชีพและค่าที่อยู่พักอาศัยขึ้นอยู่กับค่าเงินของแต่ละประเทศ  ใน การขอวีซ่านักศึกษาต้องเตรียมหลักฐานทางการเงินให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่ จะเกิดขึ้นทั้งหมดตลอดช่วงระยะเวลาที่เรียนอยู่ในประเทศนั้นๆ

        ขั้นตอนที่  2
              ขั้นตอนนี้จะช่วยให้น้องๆสามารถหาข้อสรุปในการเลือกมหาวิทยาลัยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  น้องๆลองดูตามหัวข้อในการพิจารณาและหาคำตอบของตัวเองได้เลยนะคะ
         *  หาหลักสูตรที่เปิดสอน   เช่น  BA , BS , MS , MBA , MA , Ph.D ., etc  ยิ่งหลากหลายก็ยิ่ง
              แสดงว่ามหาวิทยาลัยนั้นมุ่งเน้นทางด้านสายวิชานั้นๆ
         *  หาจุดเด่นของตัว  Program  ที่เป็นสายเฉพาะทางที่น้องสนใจ
         *  ดูอันดับ  Ranking  ของมหาวิทยาลัย
         *  ระยะเวลาที่เรียนของหลักสูตรนั้นๆ
         *  ค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายทั้งหมด
         *  ดูว่ามหาวิทยาลัยนั้นๆให้ความช่วยเหลือด้านการเงินกับนักเรียนต่างชาติหรือไม่
         *  คุณสมบัติในการตอบรับเข้าของแต่ละมหาวิทยาลัย
         *  ผลสอบที่ต้องมี  เช่น  IELTS , TOEFL , GMAT , SAT  etc.  แต่ละมหาวิทยาลัย  จะมีเกณฑ์
              ตัดสินเรื่องของผลสอบภาษาที่แตกต่างกันออกไป
         *  พิจารณาว่ามหาวิทยาลัยนั้นๆมีโปรแกรมที่เรียกว่า  Direct  Entry  หรือไม่  เพื่อเป็นตัวช่วยให้
              น้องสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
         *  พิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่กำลังเรียนอยู่  หรือดูค่าโดยประมาณ  ของการได้รับการคัดเลือกให้นักศึกษาไปฝึกงาน
         *  จำนวนนักเรียนที่รับในสาขานั้นๆ  จำนวนนักเรียนทั้งหมด  ขนาดและรูปแบบของที่เรียน
         *  สถานที่ตั้งของสถาบัน  ที่พัก  รวมถึงอากาศ  สภาพแวดล้อมด้วย  โดยคำนึงถึง  Lifestyle  ของ  ตนเองเป็นหลักว่าชอบอยู่ในเมือง  หรือชอบแบบชนบท
         *  สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้นักเรียน  เช่น  ห้องสมุด  ที่พัก  คอมพิวเตอร์  ชมรมต่างๆ  หรือ  หน่วยงานที่ช่วยเหลือดูแลนักศึกษาต่างชาติ
         *  ลักษณะของสถาบัน  ว่าเป็นของเอกชนหรือรัฐบาล
              จากหลักในการเลือกสถาบันหรือมหาวิทยาลัยข้างต้น  น้อง ๆ ลองเลือกมหาวิทยาลัยมาสัก 10 ที่  แล้วลองพิจารณาดูว่าที่ไหนมีคุณสมบัติตามเกณฑ์มากที่สุด  และน้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่สถาบันกำหนดไว้หรือไม่  แล้วค่อยตัดตัวเลือกอื่นๆที่ได้ตามเกณฑ์น้อยที่สุดออกไป  การเลือกมหาวิทยาลัยที่เหลือก็จะง่ายมากขึ้น  ขอให้โชคดีนะคะ

ขอบคุณที่มา : http://blog.eduzones.com/noknik15clab/33088

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ